เตรียมตัวอย่างไรหากต้องเดินทางไกลในช่วง เพิ่มเวลาล็อกดาวน์ 14 วัน ??
หลายท่านที่อาศัยอยู่ภายในจังหวัด กทม. เมืองหลวงของประเทศ คงเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว หลังจากมีประกาศสำคัญโดยรัฐบาลแจ้งกำหนดการ เพิ่มเวลาล็อกดาวน์ ต่ออีก 14 วัน ทำการ ซึ่งนี่ก็หมายถึงว่าการเดินทาง คมนาคมต่างๆ จะต้องถูกชะงักลงในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งก็ไม่อาจเป็นที่การันตีได้ว่าในช่วงเวลาล็อกดาวน์นั้น ไม่อาจมีผู้ใดที่จำเป็นหรือมีความฉุกเฉินในการเดินทาง ซึ่งหากเรามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งวันนี้ทาง GGezBikeCo ขอเป็นส่วนหนึ่งในการกระจายข่าวให้เหล่าสิงห์นักบิดที่ต้องใช้ชีวิตในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ด้วยกัน ว่าควรจะทำอะไรบ้างหากเราจำเป็นต้องเดินทางในช่วงเวลานี้
ศบค.แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ เพิ่มเวลาล็อกดาวน์ 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.เป็นต้นไป หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นอาจพิจารณาขยายถึงสิ้นเดือนส.ค. พร้อมเพิ่มพื้นที่สีแดงเข้มเป็น 29 จังหวัด
ศบค. นอกจากจะมีการยกระดับความเข้มงวดในการเฝ้าระวังและควบคุมผู้ติดเชื้อ COVID-19 แล้ว ยังมีการประกาศมาตรการใหม่ คือสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางข้ามพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม จำเป็นจะต้องมีหนังสือรับรองเหตุผลในการเดินทางด้วย
– ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวว่า “มาตรการจะเริ่มมีผลบังคับใช้หลังเที่ยงคืนวันที่ 2 ส.ค.64 ออกไปอีก 14 วันจะมีการประเมินผลในวันที่ 18 ส.ค.64 หากสถานการณ์ดีขึ้นก็จะผ่อนคลายมาตรการ แต่หากยังไม่ดีขึ้นอาจขยายเวลาต่อไปจนถึง 31 ส.ค.64 โดยมาตรการนี้ได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนแล้ว”
– ที่ประชุมมีมติปรับเพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) จากเดิม 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด โดยมีรายชื่อจังหวัดที่ถูกยกระดับขึ้นมา ดังนี้
- กรุงเทพมหานคร
- จังหวัดกาญจนบุรี
- จังหวัดชลบุรี
- จังหวัดฉะเชิงเทรา
- จังหวัดตาก
- จังหวัดนครปฐม
- จังหวัดนครนายก
- จังหวัดนครราชสีมา
- จังหวัดนราธิวาส
- จังหวัดนนทบุรี
- จังหวัดปทุมธานี
- จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- จังหวัดปราจีนบุรี
- จังหวัดปัตตานี
- จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- จังหวัดเพชรบุรี
- จังหวัดเพชรบูรณ์
- จังหวัดยะลา
- จังหวัดระยอง
- จังหวัดราชบุรี
- จังหวัดลพบุรี
- จังหวัดสงขลา
- จังหวัดสิงห์บุรี
- จังหวัดสมุทรปราการ
- จังหวัดสมุทรสงคราม
- จังหวัดสมุทรสาคร
- จังหวัดสระบุรี
- จังหวัดสุพรรณบุรี
- จังหวัดอ่างทอง
มาตรการบังคับใช้ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัดมีดังนี้
- ห้ามออกนอกเคหสถาน 21.00-04.00 น.
- งดเว้นการเดินทางออกนอกเคหสถานโดยไม่จำเป็น
- ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 5 คน
- ร้านอาหารห้ามบริโภคภายในร้าน เปิดได้ไม่เกิน 20.00 น. และขายแบบนำไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการได้ถึง 20.00 น. โดยให้เปิดได้เฉพาะ ร้านอาหาร/เครื่องดื่มขายผ่านเดลิเวอรี่เท่านั้น, ร้านยา/เวชภัณฑ์, ซูเปอร์มาร์เก็ต
- ปิดร้านเสริมสวยน ร้านนวด สถานเสริมความงาม
- ปิดสถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งกีฬา
- สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา ห้ามใช้อาหารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก
- ที่ประชุม ศบค. เห็นชอบยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคในสถานประกอบกิจการ ทั้งในโรงงาน แคมป์แรงงาน บริษัท ในรูปแบบมาตรการป้องกันควบคุมโรคเฉพาะพื้นที่ หรือ Bubble and Seal ในพื้นที่ 16 จังหวัด สีแดงเข้ม
แนวทางปฏิบัตรหากมีความต้องการที่จะออกจากบ้านในช่วงเวลาที่กำหนด
ส่วนมาตรการใหม่สำหรับการล็อกดาวน์พื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้มในครั้งนี้ก็คือ ทาง ศบค. ขอให้ประชาชนงดการเดินทางที่ไม่จำเป็น โดยทางภาครัฐจะมีการตั้งด่านคุมเข้มในพื้นที่ทั้ง 13 จังหวัด และสำหรับประชาชนที่ต้องการ เดินทางเข้า-ออกจะมีแนวทาง 3 แนวทางปฏิบัติ เพื่อแสดงหลักฐาน เอกสารรับรอง หรือลงทะเบียนการเดินทาง กับเจ้าหน้าที่ในด่านด้วย ได้แก่
- การแสดงเอกสารหลักฐานอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ อาทิ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ผู้อำนวยการเขต หัวหน้าสถานีตำรวจ
- ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ที่ด่านตรวจ
- ลงทะเบียนในเว็บไซต์หยุดเชื้อเพื่อชาติ https://covid-19.in.th/
ขณะที่ควบคุมเวลาการออกนอกเคหสถานหรือเคอรร์ฟิวพืนที่ 13 จังหวัด สีแดงเข้ม จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาตั้งแต่ 21.00 น. – 04.00 น. โดยทั้งการเคอร์ฟิว และจำกัดการเดินทาง ออกนอกพื้นที่ 13 จังหวัด จะได้รับการยกเว้นสำหรับประชาชน 6 กลุ่ม ตามข้อกำหนดตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 27 ดังนี้
- ด้านสาธารณสุข ผู้ป่วย บุคลากรเจ้าหน้าที่
- การขนส่งสินค้าเพื่อประโยชน์ประชาชน เช่นอาหาร ยา พัสดุ สิ่งพิมพ์
- การขนส่งหรือขนย้ายประชาชน
- การให้บริการหรืออำนวยความสะดวกประชาชน เช่น ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ผู้ประสบภัย
- ประกอบอาชีพจำเป็น เปลี่ยนกะ ผลัดเวรยาม อาทิ รปภ. ก่อสร้าง กสิกรรม
- กรณีจำเป็นอื่น ขออนุญาตเจ้าหน้าที่เฉพาะราย
อย่างไรก็ดีในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ นอกจากนี่จะเป็นการป้องกันการติดเชื้อได้แล้ว ยังเป็นอีกวิธีที่ช่วยทำให้เชื้อไม่แพร่กระจายออกไปอีกด้วย ถึงแม้งว่าประกาศนี้จะทำให้ภาคธุรกิจ และ การทำงานของหลายคนประสบปัญหา ทางเราก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุนท่านสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้และหวังว่าเราจะสามารถกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้โดยเร็ววัน เพราะจากสถานการณ์ในตอนนี้เราต้องพึ่งพาตัวเองมากกว่าผู้อื่น
ด้วยความหวางดีจากทีมงาน GGezBikeCo
ข้อมูลจาก : www.posttoday.com
ติดตามข่าวจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ : GGezBikeco
Facebook FanPage : GGezBikeco
เรียบเรียงโดย GGezBikeco