เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ BIMOTA KB4 ตามที่หลายสื่อคาดในงาน EICMA 2021
จากก่อนหน้านี้ไม่นานที่มีข่าวรูปหลุด หรือ รูปรถที่ใช้ทดสอบ ของเจ้า BIMOTA KB4 หลุดออกมาในสื่อออนไลน์ ทำให้สำนักข่าว หรือ สื่อต่างๆ ที่ทำหน้าที่เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์ นั้นต่างประโคมข่าวกันว่า BIMOTA KB4 กำลังจะมาปรากฏตัวให้เห็นแล้วจริงๆ รึเปล่า โดยหลายสำนักข่าวชี้ไปที่จุดหมายเดียวกันว่า อาจจะเป็นภายในงาน EICMA 2021 ที่กำลังจะมาถึงนี้แน่ๆ พวกเขาจะต้องเผยโฉมตัวจริงให้เห็นเป็นขวัญตา และ แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วทางค่าย บิโมตา นั้นก็ได้พาเจ้า KB4 และ KB4 RC มาตาคาดโดย การเปิดตัวโมเดลใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้สร้างความตื่นตาตื่นในเป็นอย่างมากภายในงาน
ซึ่งหลังจากที่เคยเป็นข่าวในช่วงแรกก็ทำให้หลายคนต้องรอกันอย่างใจจดใจจ่อมานานหลายปี และแล้วในที่สุด Bimota ก็ได้เปิดตัวรถโมเดลนี้อย่างเป็นทางการเสียที โดยเรียกว่าเหนือความคาดหมายขึ้นไปอีกเมื่อพวกเขาได้ทำการเปิดตัวรถ KB4 ถึง 2 โมเดลเลยทีเดียว
โดยโมเดลใหม่อย่าง KB4 และ KB4 RC ภายในงาน EICMA 2021 ตามที่หลายๆ คนคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้า ว่า KB4 นั้นจะมาปรากฏตัวให้เห็นอย่างแน่นอน โดยหลายคนต่างเฝ้ารอรายละเอียดของตัวรถว่าจะมีความน่าสนใจมากแค่ไหน โดยมีข่าวหนาหูเกิดขึ้นมาว่า บิโมตา เลือกใช้ขุมกำลังที่พัฒนามาแบบเดียวกันกับ Kawasaki Ninja 1000SX เป็นเครื่องยนต์แบบ 4 ลูกสูบเรียง ความจุ 1,043 ซีซี.
ดีไซน์และการออกแบบ BIMOTA KB4 Eicma 2021
ในส่วนของการการออกแบบ Bimota นั้นได้เน้นไปที่สไตล์ของรถที่ไม่เหมือนใคร แถมยังต้องมีประสิทธิภาพอีกด้วย โดยพวกเขาได้ใส่ใจในรายละเอียดของน้ำหนักรถเพิ่มความเบาและความกระทักรัดให้กับตัวรถ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการตอบสนองที่ดีของตัวรถต่อผู้ขับขี่
การออกแบบระยะฐานล้อที่สั้นเพื่อการควบคุมการเข้าโค้ง การพลิกรถที่ง่ายเมื่อใช้งานในส่วนของการเข้าโค้งรูปตัว S นั่นเอง และ ที่แปลกกว่ารถของค่ายอื่นๆ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของหม้อน้ำ หรือ ชุดระบายความร้อน ที่โดยปกติแล้วเราจะเห็นมันอยู่ติดกับห้องเครื่องในส่วนหน้าต้องรถใต้ถึงน้ำมัน แต่สำหรับ บิโมตา แล้วมันจะถูกย้ายไปติดตั้งอยู่ที่ใต้เบาะหลังแทน ซึ่งจะมาพร้อมกับพัดลมระบายความร้อนที่ชุดระบายความร้อนอีกด้วย
อาจจะมีคำถามเกิดขึ้นตามมาว่า เศษหินเล็กๆ จากการกระเด็นที่ล้อหลังจะไม่สร้างความเสียหายให้กับหม้อน้ำจริงๆ หรือ ?? ซึ่งในส่วนนี้ก็ได้รับการออกแบบเพื่อแก้ปัญหามาอย่างดี โดยหากเราสังเกตุตรงบริเวณท้ายของตัวรถจะเห็นได้ว่าจะมีทั้งกันดีด หรือ บังโคลน ที่ติดอยู่กับแผ่นป้ายทะเบียน และ กันดีดที่ติดกับสวิงอาร์มแบบที่พบเห็นได้ทั่วไปอยู่ด้วย ซึ่งก็จะทำหน้าที่ป้องกันได้อย่างดี แต่ถ้าอยากเอากันดีดป้ายทะเบียนออกก็แน่นำใช้ตะแกรงเหล็กฉีกตาถี่มาปิดป้องกันไว้หม้อน้ำเอาไว้หน่อยก็ดีเช่นกัน
ในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมของตัวรถ เท่าที่มีรายงานมาก็จะพบว่ารถเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่เลือกสรรค์มาเป็นอย่างดี ด้วยระบบกันสะเทือนจะเป็นของ Öhlins ทั้งชุดหน้าและหลังเลย โดยโช้คหน้าจะเป็นแบบ FG R&T NIX 30 ขนาด 43 มม. และ โช้คแบบหลังเดี่ยว TTX 36 มาพร้อมระบบเบรกที่ได้มาตรฐานตามที่คาดการณ์ไว้
โดยพวกเขาเลือกใช้ คาลิปเปอร์ด้านหน้าแบบคู่ Brembo Stylema ดิสก์เบรกขนาด 320 มม. และ ด้านหลังจะใช้ดิสก์เบรกขนาด 220 มม. น้ำหนักรวมของตัวรถแบบไม่รวมของเหลวจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 187 กิโลกรัม ถือว่าเบามาก ความสูงจากพื้นถึงเบาะจะอยู่ที่ 810 มม.
โดยรถโมเดลใหม่ที่ถูกเปิดตัวทั้ง 2 รุ่นนั้นจะมีความเหมือนกันแทบทุกอย่างในส่วนของประสิทธิภาพ ชิ้นส่วน วัสดุอุปกรณ์ ซึ่งจะแตกต่างกันใส่ส่วนของอารมณ์จากรูปลักษณ์ภายนอก และความรู้สึกเมื่อขับขี่ที่จะต่างกันออกไป โดยถ้าหากมีการพบเจอรถโมเดลนี้เจอในประเทศไทยถือว่าดวงดีมากๆ โดยนับเป็นรถแรร์ หรือ รถหายากได้เลยทีเดียว
ติดตาม ข่าวรถมอเตอร์ไซค์ ข่าวบิ๊กไบค์ ข่าวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ : ข่าวรถมอเตอร์ไซค์
ติดตาม ข่าวสารรถมอเตอร์ไซค์ ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ : ข่าวสารรถมอเตอร์ไซค์
ติดตาม ข่าวรถมอเตอร์ไซค์ ข่าวจักรยานยนต์ ข่าวบิ๊กไบค์ ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ : GGezBikeco
Facebook FanPage : GGezBikeco
เรียบเรียงโดย GGezBikeco
